กระดูกอ่อนปลาฉลาม(Shark Cartilage)
ผลงานที่โด่งดังที่สุดของกระดูกปลาฉลามเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1992ซึ่งมีการตีพิมพ์ในหนังสือที่เขียนโดย I. Willium Lane ในหัวเรื่อง Shark Don’t Get Cancer ทำ ให้กระดูกอ่อนปลาฉลามได้รับความนิยมในการเป็นทางเลือกของการรักษาโรคมะเร็ง โดยอาศัยสมมติฐานที่ว่าเซลล์กระดูกอ่อนสามารถผลิตสารที่สามารถยับยั้งการ สร้างหลอดเลือดใหม่(Angiogenesis) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของเซลล์มะเร็ง ในการทำให้ตัวมันได้รับสารอาหารและออกซิเจนจากเลือดเพื่อให้มันเจริญเติบโตขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติที่สำคัญและได้รับการยอมรับมากที่สุดของกระดูกอ่อนปลาฉลามคือ การรักษาโรคข้อเสี่อม (Osteoarthritis)
กระดูกอ่อนปลาฉลามและโรคข้อเสื่อม
จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่า กระดูก อ่อนปลาฉลามมีผลในการบรรเทาหรือรักษาโรคข้อเสื่อมได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้ง นี้เนื่องจากองค์ประกอบหลักที่อยู่ในกระดูกอ่อนปลาฉลาม คือ สารในกลุ่มไกลโคสอะมิโนไกลแคน(Glycosaminoglycan) ซึ่ง 80% เป็นสารคอนดรอยติน (Chondrotin)ที่เป็นสารอาหารหลักสำหรับการบรรเทาอาการของข้อเสื่อมคอนดรอยติน (Chondroitin) บรรเทาอาการข้อเสื่อมโดยทำหน้าที่ ยับยั้งเอนไซม์ Collagenase ที่เข้ามาทำลายคอลลาเจนบริเวณกระดูกอ่อนลดการสร้างสารบางชนิดที่เข้าทำลาย Cartilage Matrix เพิ่มความสามารถในการดึงน้ำหล่อลื่นเข้าสู่ระหว่างข้อมากขึ้น เพิ่มปริมาณการสังเคราะห์ Proteoglycan และ กรดไฮยาลูโลนิกมากขึ้นลดการเสียดสีระหว่างข้อต่อ ส่งผลให้ลดการอักเสบปวดและบวมได้การป้องกันโรคข้อเสื่อม ควบคุมน้ำหนักลดการทำงานหรือการรับน้ำหนักของข้อ หลีกเลี่ยงการกระโดด คุกเข่า หรือนั่งพับเพียบ บริหารกล้ามเนื้อรอบข้อให้แข็งแรงอยู่เสมอออกกำลังกายแบบเหมาะสมเช่น ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน การได้รับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิดเช่นกระดูกอ่อนปลาฉลาม คอนดรอยติน ซัลเฟต เป็นต้น
วิธีการรับประทาน Shark Cartilage
เพื่อบรรเทาอาการของโรคข้อเสื่อมแนะนำวันละ 800 – 1200 มิลลิกรัม/วัน
ข้อควรระวัง : ไม่แนะนำในเด็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่พึ่งได้รับการผ่าตัด
DESCRIPTIONS
· 100% Pure
- Immune System Support*
- Rich in Mucopolysaccharides
- Natural Source of Chondroitin
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น